ผู้สูงอายุ มักมีอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงรู้สึกไม่ดี เมื่อมีอาการเจ็บป่วย การนวดผ่อนคลายจึงเป็นสิ่งที่บุตรหลานสามารถช่วยผู้สูงอายุในบ้านของท่านได้
การนวดกดจุดบนใบหน้า
การนวดกดจุดบนใบหน้า ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย แก้อาการปวดเมื่อย และรักษาสมดุลในร่างกายได้ เพราะใบหน้าเป็นส่วนที่มีจุดศูนย์รวมจากอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมากมาย เช่น ใต้ตา เป็นตัวแทนของไต โหนกแก้ม เป็นตัวแทนของลำไส้ใหญ่ และยอดปลายจมูก เป็นตัวแทนของกระเพาะอาหาร เป็นต้น การนวดกดจุดบนใบหน้าจึงไม่เพียงทำให้ผ่อนคลายบริเวณใบหน้าและศีรษะ แต่ยังช่วยให้ผู้สูงอายุ บรรเทาอาการในบริเวณอื่นๆ ของร่างกายได้อีกด้วย
ประโยชน์ของการนวดกดจุดบนใบหน้า
- ช่วยผ่อนคลายจากอาการปวดเมื่อย
- ช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคที่เป็นอยู่ได้
- ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นขึ้น
- คลายอาการวิงเวียนศีรษะ
- ช่วยให้นอนหลับสบาย
- บรรเทาอาการไมเกรน กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง
- ขับสารพิษ ช่วยระบบไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น
ขั้นตอนในการนวดกดจุดบนใบหน้า
การนวดกดจุดบนใบหน้า มี 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ล้างหน้าด้วยสบู่เหลวอย่างอ่อนที่ไม่ระคายเคือง โดยใช้สบู่แต้ม 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง จากนั้นนวดวนตามรูขุมขนให้ทั่วใบหน้า โดยระวังรอบดวงตา ล้างออกให้สะอาด ซับให้แห้ง
2. แต้มครีมนวดหน้า 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง จากนั้นเริ่มนวดจากหน้าผาก ลากไปยังขมับทั้งสองข้าง เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนบนใบหน้า ไล่มาบริเวณใต้ตา ใกล้สันจมูก ปีกจมูก ไปยังขมับทั้งสองข้าง จากนั้นกลับมาที่เหนือริมฝีปาก ใต้คาง และขากรรไกรทั้งสองข้าง
3. กดนวดต่อมน้ำเหลือง หลังหู หน้าหู ติ่งหู และใบหู และคลึงรอบดวงตา และระหว่างคิ้ว เพื่อกระตุ้นระบบน้ำเหลืองบนใบหน้า
4. ล้างหน้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง
การนวดกดจุดให้ผู้สูงอายุ นอกจากช่วยให้ผ่อนคลายจากอาหารปวดเมื่อยเจ็บปวดต่างๆ ตามร่างกายได้แล้ว ยังเป็นการใช้เวลาพูดคุยกัน และเอาใจใส่ดูแลกันอีกด้วย
ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับบรรดาข้อกระดูก
การดูแลตนเองเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุควรปฏิบัติ และลูกหลานก็ควรให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุของท่านเช
เรามักพบเห็นว่าผู้สูงอายุ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มักมีอาการหลงลืมอยู่บ่อยๆ ซ
โรคที่เมื่ออาการกำเริบแล้วอาจส่งผลถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต เชื่อว่าหลายๆ คนคงนึกถึ
ผู้สูงอายุ โรคงูสวัด และโรคอีสุกอีใส เกี่ยวข้องกันอย่างไร