ผู้สูงอายุ โรคงูสวัด และโรคอีสุกอีใส เกี่ยวข้องกันอย่างไร
โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา ซอสเตอร์ (VZV : Varicella Zoster Virus) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันที่ทำให้เกิด โรคอีสุกอีใส
ดังนั้น ผู้ที่เคยเป็นโรคโรคอีสุกอีใส แม้ว่าจะหายแล้ว เชื้อไวรัสยังคงซ่อนอยู่ในร่างกาย รอเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดลง เชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวน เกิดเป็นโรคงูสวัด โดยมีอาการทางผิวหนัง เป็นตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นเป็นกระจุก มีอาการปวดแสบปวดร้อนตามแนวเส้นประสาท มีอาการปวดเมื่อย เป็นไข้ ร่วมด้วย โรคงูสวัดสามารถติดต่อกันผ่านทางระบบหายใจ หรือการสัมผัสตุ่มน้ำใสจากผู้ป่วย
ในกรณีของผู้สูงอายุ การแพร่กระจายของโรค จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายเริ่มเสื่อมถอย จากอายุที่มากขึ้น การนอนไม่พอ มีภาวะเครียด ขาดการออกกำลังกาย หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น
แนวทางการป้องโรคงูสวัด ผู้สูงอายุ 50 ปี ขึ้นไป ควรเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ช่วยลดการเกิดโรคงูสวัด และป้องกันภาวะปวดเรื้อรัง
นอกจากนี้ การดูแลตัวเองโดยการ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ห่างไกลจากโรคงูสวัดได้ครับ
กดแชร์ไปยังบุคคลที่คุณรัก เพื่อห่างไกลจากโรคงูสวัด
แม้ว่าการคันทวารหนักจะพบได้ในทุกวัย แต่ก็พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากความย
การเปลี่ยนแปลงในช่วงสูงวัย เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ด้อยลง ทั้งการเปลี่ยนแปลงภายน
เมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ อาการปวดตามบริเวณต่างๆ มักเป็นอาการที่พบเห็นได้บ่อย เกิ
เมื่อถึงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากการใส่ใจในเรื่องของโภชนาก
โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันโรค ทำให้ผู้สูงอ