
หลายครั้งที่เราไอ จาม หัวเราะ หรือทำอะไรที่ต้องออกแรง คุณคงเคยได้ยินคนพูดว่า “…จนปัสสาวะเล็ด” ใช่ไหมคะ อาจฟังดูเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่กับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอาย และไม่ตลกเลย ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย โดยเฉพาะพบได้บ่อยในวัยสูงอายุ
สาเหตุและอาการของโรค
การที่มีอาการปัสสาวะเล็ด เกิดจากการที่กระเพาะปัสสาวะบีบตัวมากเกินปกติ อาจทำให้กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือปัสสาวะบ่อยร่วมด้วย ซึ่งเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้
- การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอุดกั้น
- กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะบีบตัวอ่อนแรง
- เป็นเนื้องอก นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
- ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง
- หูรูดอ่อนแรง
- ต่อมลูกหมากโต
การรักษา
ในบางรายต้องการการรักษาโดยใช้ยาจึงจะสามารถหายได้ แต่ในบางรายก็เกิดจากพฤติกรรมส่วนตัว และอายุ ซึ่งการปรับพฤติกรรมก็เพียงพอแล้ว โดยปรับพฤติกรรม ดังนี้
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัว เช่น กาแฟ สุรา
- กำหนดเวลาถ่ายปัสสาวะ
- ปรับเวลาและปริมาณในการดื่มน้ำ
- ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
- การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทั้งการขมิบถี่ และการขมิบค้างไว้นับ 1-20 โดยในระหว่างขมิบอย่ากลั้นหายใจ ทำวันละ 30-50 ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์
อาการปัสสาวะเล็ด เกิดขึ้นได้ทั้งความผิดปกติของร่างกาย และการใช้ชีวิตที่มีพฤติกรรมผิดๆ ซึ่งก็ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะผิดปกติและเกิดอาการปัสสาวะเล็ดได้เช่นกัน ดังนั้น ทางแก้ไขที่ดีที่สุด คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ถูกต้อง ไม่ดื่มน้ำมากก่อนนอน ไม่กลั้นปัสสาวะ และพยายามปัสสาวะให้เป็นเวลาสม่ำเสมอก็จะช่วยรักษาอาการปัสสาวะเล็ดอย่างถาวรได้
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น สภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยลง โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ ที่สภาพร่างก
เรื่องของกระดูก สำคัญมากสำหรับช่วงวัยสูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีมวลกระดูกน้อ
ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยมีผู้ป่วย โรคไตเรื้อรัง 1.12 ล้านคน มีแนวโน้มเพิ่
อาการนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ เกิดขึ้นอาการทางสมอง ซึ่งญาติไม่ควรปล่อย
แม้ว่าการคันทวารหนักจะพบได้ในทุกวัย แต่ก็พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากความย