อาการกรวยไตอักเสบ เป็นการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะตอนบน มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือในบางรายอาจเกิดจากกการติดเชื้อราได้
กรวยไตอักเสบมักเกิดขึ้นเพียงข้างใดข้างหนึ่ง หรือเกิดพร้อมกันทั้งสองข้าง ขึ้นอยู่กับปัจจัย หากมีการอักเสบเฉียบพลันซึ่งอาการเกิดทันที และรุนแรง จะรักษาให้หายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่หากอักเสบไม่รุนแรง แต่เป็นๆ หายๆ มักเกิดจากการรักษาควบคุมสาเหตุของโรคไม่ได้ เช่น ยังมีนิ่วในไตเรื้อรัง หรือมีต่อมลูกหมากโต
การเกิดและปัจจัยเสี่ยง
- เป็นการอักเสบต่อเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- มีการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะแช่ค้างอยู่ในทางเดินปัสสาวะ จึงมีการติดเชื้อ
- มีปัสสาวะไหลย้อนกลับจากกระเพาะปัสสาวะเข้าในท่อไต อาจเกิดจากโรคทางเดินปัสสาวะ
- เกิดจากการติดเชื้อของกระดูกหรือผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อต่างๆ แล้วเชื้อโรคกระจายทางกระแสโลหิตมายังกรวยไต
- เป็นส่วนหนึ่งในการติดเชื้อทางกระแสโลหิตของอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย
- ผู้เป็นเบาหวาน และมีภูมิคุ้มกันต่ำ
- จากการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีคู่นอนหลายคน
- ภาวะตั้งครรภ์ ที่ตัวครรภ์เบียดทับท่อไตหรือกระเพาะปัสสาวะ
- เกิดจากพันธุกรรม
อาการของโรค
เมื่อเป็นโรคนี้ มักมีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ปวดหลัง เอวเรื้อรัง กดเจ็บในตำแหน่งไต ปัสสาวะขุ่น และอาจมีเลือดปน ปัสสาวะแสบขัด มีปริมาณน้อย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจกลายเป็นโรคเรื้อรัง จนเกิดไตวายเรื้อรัง และเสียชีวิตได้
การดูแลตนเอง
- กินยาต่างๆ ให้ครบถ้วน และไม่หยุดยาเอง
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
- ไม่กลั้นปัสสาวะนาน
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
- พบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ หรืออาการเลวลง
โรคกรวยไตอักเสบ สามารถป้องกันได้โดยการดูแลตนเองดังที่กล่าวไปแล้ว และหมั่นออกกำลังกายเสมอๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย
ในวัยสูงอายุ ภูมิคุ้มกันจะลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จึงอาจเกิดโรคต่างๆ ขึ้นได้ แม้ว่
หากพูดว่าผู้สูงอายุ ที่จริงแล้ว ก็คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งในช่วงวัยสูงอ
ในหน้าหนาว หรือวันที่มีอากาศหนาว รวมถึงการนอน หรืออาศัยอยู่ในที่ที่มีความชื้นและอากา
โรคระบบทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะนั้น พบได้มากในผู้หญิง เน
จะป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้อย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุ
