ในวัยสูงอายุ ความสามารถในการมองเห็น การเดิน และการประคองตนเองจะไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มักเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะการลื่นล้ม หรือชนกับสิ่งต่างๆ จนอาจทำให้เกิดกระดูกหักได้
อาการอย่างไรที่สงสัยว่ากระดูกหัก
- ปวดบวมตรงกระดูกที่หัก
- ส่วนที่กระดูกหักจะผิดรูปไป
การดูแลตนเองเบื้องต้น
หากสงสัยว่ากระดูกหัก ให้ดามด้วยวัสดุที่แข็งแรง เช่น ไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกเคลื่อน และสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาล
การดูแลตนเองเมื่อต้องเข้าเฝือก
- พยายามให้ส่วนที่หัก อยู่สูงกว่าหัวใจเสมอ เช่น คล้องแขน วางขาสูง เพื่อช่วยการไหล เวียนโลหิต จะช่วยลดอาการบวมได้
- ขยับนิ้วมือนิ้วเท้าที่อยู่นอกเฝือกอย่างช้าๆ มากขึ้นเรื่อยๆ และบ่อยๆ ช่วยการเคลื่อนไหว จะช่วยลดอาการบวม และปวดได้
- อย่าให้น้ำเข้าไปในเฝือกโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผิวหนังส่วนที่อยู่ในเฝือกเปื่อยเน่าได้
- ถ้าคันส่วนที่อยู่ในเฝือก ให้หาซื้อยาแก้แพ้แก้คัน เช่น คลอเฟนนิรามีนทานแก้คันได้ อย่าได้เอาอะไรเข้าไปเกาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อส่วนที่อยู่ในเฝือก เกิดแผลและกลายเป็นแผลติดเชื้อได้ง่าย
- ต้องกลับมาพบแพทย์ทันที ที่มีอาการปวดมาก บวมจนปวด บวมจนชา บวมจนเขียว หรือ จนซีด หรือเฝือกหัก
- หากเป็นการผ่าตัดใส่เหล็ก ควรระวังเรื่องไข้ด้วย เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้
เวลาในการฟื้นตัว
การติดของกระดูกแต่ละแห่งใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่ปกติจะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 4-6 สัปดาห์ขึ้นไป จึงจะสามารถเริ่มกลับมาใช้งานได้
เมื่อกระดูกหัก สร้างความเจ็บปวดทรมาน และอาจทำให้พิการได้ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ลูกหลานจึงควรเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด และระมัดระวัง รวมถึงป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุก็จะสามารถลดอุบัติเหตุที่จะทำให้กระดูกหักได้
อาการของโรคภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ จะเหมือนกับอาการของผู
หากพูดว่าผู้สูงอายุ ที่จริงแล้ว ก็คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งในช่วงวัยสูงอ
ความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่มีผู้เป็นมากถึงพันล้านคนในโลกนี้ ซึ่งพบได้ในผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะ
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะทำงานได้ลดลง ประสิทธิภาพด้อยลง และส่งผ
เมื่อถึงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากการใส่ใจในเรื่องของโภชนาก
ระบบทางเดินอาหาร มีผลต่อการย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย เมื่อถึงวัยสูงอายุ ระบบทางเดินอาหารจะทำงานได้ลดลง