ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เข้าใจให้ถูกต้องเพื่อสุขภาพที่ดี

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เข้าใจให้ถูกต้องเพื่อสุขภาพที่ดี

โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง อันเนื่องมาจากความผิดปกติในการผลิตหรือการใช้อินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อหัวใจ ตา ไต สมอง และระบบประสาท อย่างไรก็ตาม ยังมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวานที่ควรได้รับการปรับแก้ให้ถูกต้อง ดังนี้:

1. การรับประทานอาหารรสหวานทำให้เป็นเบาหวาน
- ไม่ใช่ทุกคนที่กินหวานจัดจะเป็นเบาหวาน แต่การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยง หากไม่มีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร
- โรคเบาหวานเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงกรรมพันธุ์ และความผิดปกติในการผลิตอินซูลินของตับอ่อน
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ขนมขบเคี้ยว อาหารทอด ก็มีผลต่อการเกิดเบาหวาน เพราะส่งผลต่อการทำงานของอินซูลิน

2. น้ำตาลและแป้งเท่านั้นที่ทำให้เกิดเบาหวาน
- อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน หรือแฮม ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ก็เป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากไขมันเหล่านี้ลดประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน
- การรับประทานอาหารเหล่านี้ในปริมาณมาก ส่งผลให้ตับอ่อนทำงานหนักและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

3. ถ้าไม่มีคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน เราก็จะไม่เป็น
- แม้ว่ากรรมพันธุ์จะเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่พฤติกรรม เช่น การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ขาดการออกกำลังกาย และพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้

4. โรคเบาหวานเกิดเฉพาะในผู้สูงอายุ
- โรคเบาหวานเกิดได้ทุกวัย
ประเภทที่ 1 มักพบในเด็กและวัยรุ่น
ประเภทที่ 2 พบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันพบมากขึ้นในวัยทำงานและวัยรุ่น เพราะวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

5. คนอ้วนเท่านั้นที่เป็นเบาหวาน
- คนผอมก็มีความเสี่ยง หากมีไขมันสะสมในช่องท้อง (Visceral Fat) หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารไขมันสูง

6. น้ำตาลจากผลไม้ปลอดภัยกินได้ไม่จำกัด
- ผลไม้หวานจัด เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก หรือลำไย มีน้ำตาลฟรุกโทสที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
- ควรเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล หรือชมพู่ และบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม

7. ผู้ป่วยเบาหวานจะรู้ตัวเมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนที่จะมีอาการชัดเจน บางรายอาจไม่มีสัญญาณเตือนเลย
- การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอจึงสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการเวียนศีรษะ ใจสั่น หรือเหงื่อออก

8. โรคเบาหวานไม่อันตราย
- เบาหวานเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาบอด หลอดเลือดหัวใจตีบ และไตวาย
- ในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานกว่า 20,000 คนต่อปี

9. ห้ามกินของหวานเด็ดขาด
- ผู้ป่วยสามารถกินของหวานได้ในปริมาณที่เหมาะสม หากควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

10. ผู้ป่วยเบาหวานห้ามบริจาคเลือด
- ผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และไม่มีภาวะแทรกซ้อน สามารถบริจาคเลือดได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

สรุป การเข้าใจโรคเบาหวานอย่างถูกต้องช่วยให้เราดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุควรปรับพฤติกรรม เช่น การเลือกกินอาหารที่ดี ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงและรับมือกับโรคนี้อย่างมีประสิทธิภาพ


บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคทางสมอง คืออะไร และจะป้องกันได้อย่างไร

โรคทางสมอง เป็นโรคที่มีความร้ายแรงต่อผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เป็นโรคที่สร้างความทุ

การดูแลตัวเอง เมื่อเป็นต้อเนื้อ และ ต้อลม

ต้อเนื้อ และ ต้อลม เป็นชนิดของโรคตา ที่ไม่รุนแรงเท่ากับต้อหินและต้อกระจก แต่

รู้ไว้ ห่างไกลโรคไต

โรคไต เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะถามไถ่ผู้สูงอายุท่านใด ส่วนมากก็จะเป็นโรคไตร่วมด

คันทวารหนักไม่ควรอาย รีบไปหาหมอ

แม้ว่าการคันทวารหนักจะพบได้ในทุกวัย แต่ก็พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากความย

ดูแลผมของคุณให้ดกดำ ไม่ร่วงหล่นไปตามวัย

ปัญหาผมร่วง หรือผมบาง เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความหนักใจให้กับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เมื่ออายุเพิ่มข

ควบคุมน้ำหนักได้ ห่างไกลโรคข้อกระดูกเสื่อม

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ เมื่อจะลุกจะนั่ง มักรู้สึกปวดเมื่อย หรือเจ็บปวดตามข้อต่างๆ ของร