แม้ว่าการคันทวารหนักจะพบได้ในทุกวัย แต่ก็พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากความยากลำบากในการดูแลตนเองให้ถูกสุขลักษณะ และเมื่อมีอาการคันทวารหนัก ผู้สูงอายุมักอาย และคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรแก้ปัญหาเอง ซึ่งอาจทำให้แก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุด
สาเหตุของอาการ
- บริเวณรอบทวารหนักเปียกชื้น เช่น เหงื่อออกมาก อ้วน เข้าห้องน้ำแล้วล้างเช็ดไม่แห้ง
- มีโรคผิวหนัง
- มีอุจจาระไหลซึมอออกมารอบๆ ปากทวารหนัก
- การระคายเคืองจากอาหารบางชนิด
- มีการติดเชื้อในผิวหนังรอบปากทวารหนัก
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาเคมีบำบัด หรือยารักษาตรงเป้า
- เกิดจากโรคเรื้อรังของร่างกายบางชนิด เช่น เบาหวาน ดีซ่าน ไต เป็นต้น
- ผิวหนังบริเวณรอบทวารหนักสัมผัสสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
- เป็นอาการของมะเร็งบางชนิด
- มีปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ หรือโรคของเส้นประสาทในบริเวณนั้น
เมื่อมีอาการคันทวารหนัก อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ผื่น น้ำเหลือง หนอง มีกลิ่นผิดปกติ อุจจาระเป็นเลือด มีอาการเจ็บปวด และมีก้อนเนื้อ หากเป็นโรคริดสีดวงทวาร หรือหูดต่างๆ
การดูแลตนเอง
- ตัดเล็บให้สั้น เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากการเกา
- รักษาความสะอาดบริเวณทวารหนัก ล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ซับให้แห้งด้วยกระดาษชำระที่อ่อนนุ่ม
- รักษาบริเวณทวารหนักให้แห้งเสมอ
- ใส่ยาแก้คันได้ เช่น ยาคาลามาย
- สามารถซื้อยาแก้คันทานเองได้ แต่ควรปรึกษาเภสัชก่อนทุกครั้ง
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดตึง เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี
- รักษาความสะอาดชุดชั้นใน และควรเปลี่ยนอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและก่อนนอน
- สังเกตตนเองว่าคนเพราะสัมผัสสารระคายเคืองใดหรือไม่
- ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการดังที่กล่าวมาแล้ว
บุตรหลานควรเข้ามาดูแลผู้สูงอายุในเรื่องของสุขอนามัยอย่างใกล้ชิด และพาไปพบแพทย์เมื่อมีอาการ ไม่ควรอาย เพราะอาจเป็นโรคผิวหนัง หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ ได้
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เข้าใจให้ถูกต้องเพื่อสุขภาพที่ดีโรคเบาหวานเป็
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงสูงวัย นอกจากสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ อ่อนแอลงไปมากแล้ว ยังมีเรื
ในวัยสูงอายุ เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้สูงอายุควรดูแลตนเองให้มีสุขภาพทั้
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มักมีโรคภัยต่างๆ ถามหาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะทำ
อาการนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ เกิดขึ้นอาการทางสมอง ซึ่งญาติไม่ควรปล่อย
โรคกระดูกสันหลังเสื่อม ทำให้หลังคดโก่ง กระดูกเลื่อน ปวดหลัง ปวดคอ ซึ