วัคซีนในผู้สูงอายุ ป้องกันโรคร้ายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะเสื่อมถอยลง ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง การฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุจึงเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันโรคต่างๆ โดยวัคซีนที่แนะนำมีดังนี้
1. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
- อายุที่แนะนำ : 60 ปีขึ้นไป (หรือ 50 ปีขึ้นไป หากมีโรคประจำตัว)
- ความถี่ : ฉีดปีละ 1 ครั้ง
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม โรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ระบบทางเดินหายใจในผู้สูงอายุ
2. วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบนิวโมคอคคัส
- อายุที่แนะนำ : 65 ปีขึ้นไป (หรือ 50 ปีขึ้นไปสำหรับผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ)
- รูปแบบการฉีด :
ชนิด 13 สายพันธุ์ (PCV13) ฉีด 1 เข็ม
ชนิด 23 สายพันธุ์ (PPSV23) ฉีด 1 เข็ม โดยเว้นระยะห่างจากชนิดแรก 1 ปี
- ป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัสที่อาจก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
3. วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด
- อายุที่แนะนำ : 50 ปีขึ้นไป
- รูปแบบการฉีด : ฉีด 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มแรกและเข็มที่สองประมาณ 2-6 เดือน
- ลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคงูสวัด รวมถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการปวดประสาท
4. วัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน
- อายุที่แนะนำ : ทุกช่วงวัย ควรได้รับการกระตุ้นเมื่ออายุครบ 60 ปี
- ความถี่ : ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
- ช่วยป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดจากบาดแผลหรือการติดเชื้อ
สรุป การฉีดวัคซีนผู้สูงอายุเป็นวิธีการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่สำคัญ ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อต่างๆ ลดความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น อะไรๆ ก็ดูจะด้อยลงทุกอย่าง ทั้งสิ่งภายนอกที่มองเห็นได้อย่างช
ชีวิต เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราทุกๆ คน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดของชีวิต ก็ควรดูแลรักษาสุขภาพร่า
อาการหลงๆ ลืมๆ นี้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการไม่เอาใจใส่ การรีบเร่ง ความกังวลในใจ การทานยาบางชนิด เป็นต้น
โรคเบาหวาน เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความผิดปกติได้กับเนื้อเยื่อแล
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ นอกจากสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง จนอาจเกิดอาการเจ็บ