ยา นับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ซึ่งหากขาดยาไป หรือทานยาไม่ครบ ก็อาจทำให้อาการเจ็บป่วยไม่สามารถบรรเทา หรือรักษาให้หายได้ เมื่อยามีความสำคัญ ผู้สูงอายุจึงไม่ควรลืมทานยาอย่างเด็ดขาด แต่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักมีนิสัยหลงๆ ลืมๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทานยาให้ครบ และตรงตามที่แพทย์สั่งเป็นอย่างมาก
ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีดีๆ ในการให้ผู้สูงอายุทานยาให้ตรงเวลา ทานให้ครบ และตรงตามแพทย์สั่งมาฝากกันค่ะ
วางยาให้เป็นที่
ยาที่ต้องทาน ควรวางให้เป็นที่ จะใส่ตะกร้า หรือใส่อะไรไว้ก็แล้วแต่ แต่ไม่ควรหยิบไปนู่นมานี่ ควรวางไว้กับที่ โดยให้อยู่ในบริเวณที่ผู้สูงอายุต้องทานอาหาร เช่น บนโต๊ะอาหาร ในห้องนอน (กรณีทานอาหารในห้องนอนเป็นประจำ) เป็นต้น ควรย้ายเมื่อต้องเอาติดตัวไปสำหรับเดินทาง หรืออกไปข้างนอกเท่านั้น
ทานทันทีหลังจากทานอาหารเสร็จ
หากเป็นยาหลังอาหาร ควรทานทันทีเมื่อทานอาหารอิ่มแล้ว ไม่ควรเว้นช่วง หรือขาดช่วงไป เพราะอาจทำให้ลืมทานยาได้มาก ดังนั้น เมื่อทานอาหารอิ่มแล้ว ควรทานยาหลังอาหารก่อนทันที
สำหรับยาก่อนอาหารที่ควรทานก่อนอาหาร 15-30 นาทีนั้น อาจแก้ปัญหาการลืมทานยาด้วยการหมั่นทานอาหารให้เป็นเวลาทุกวัน เราจะสามารถตั้งเวลาในการทานยาได้ เช่น มื้อเที่ยงทานตอนเที่ยงตรง พอถึงเวลา 11.30-11.45 น. ก็จะเป็นเวลาที่ต้องทานยาก่อนอาหารในทุกวัน
ลูกหลานควรเข้ามาช่วยเหลือ
เพราะในช่วงวัยของผู้สูงอายุนั้น อาจมีปัญหาด้านการมองเห็น และความจำ ทำให้ไม่สามารถทานยาได้อย่างดีที่สุด ลูกหลานจึงควรเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการทานยาให้กับผู้สูงอายุด้วย
การทานยา เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับช่วงวัยของผู้สูงอายุมาก จึงควรใส่ใจ ทานยาให้ถูกต้อง และหมั่นไปพบแพทย์ตามนัดเสมอ นอกจากนี้ ควรมีผู้ดูแลในเรื่องการใช้ชีวิต และการทานยาให้กับผู้สูงอายุด้วย จึงจะทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขที่สุดได้
ผู้สูงอายุ เป็นช่วงวัยที่มีเวลาว่างมากที่สุด ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องประกอบอาชีพใด และไม่ต้องรับผิดช
การทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นการบำบัดร่างกายที่ดีทางหนึ่ง ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกา
โครงการ เงินดิจิทัล เฟส 2 หรือเรียกกันติดปาก เงิน 10,000 ผู้สูงอายุ กลุ่มเป้าหมายผู้ที่มีอายุ 60
ถ้าผู้สูงอายุในบ้านของคุณกำลังเป็นโรคซึมเศร้า หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย หรือมีนิสัยที่เปลี่ยนไป เช่
โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกายก็จริง แต่อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดต่อจิตใจ
ผู้สูงอายุหลายท่าน หรือวัยกลางคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงสูงอายุ