ผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัว เนื่องจากสภาพร่างกายในช่วงวัยนี้จะเสื่อมโทรมลง และทำงานได้ไม่ดีเท่ากับในวัยหนุ่มสาว เมื่อเกิดโรคประจำตัวขึ้น ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก ทำให้คุณภาพชีวิตตกต่ำลง จึงจำเป็นต้องรักษา และอาศัยการทานยาช่วย
การทานยา อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับผู้สูงอายุเช่นกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ลืมทานยา ทานยาไม่ตรงเวลา ทานยาไม่ครบ หลงๆ ลืมๆ ว่าทานยาไปหรือยัง เป็นต้น ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพ ดังนั้น ลูกหลานจึงควรเข้ามามีบทบาทในการช่วยผู้สูงอายุในการจัดยา และช่วยให้ทานยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยควบคุมโรค และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
การช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทานยา สามารถทำได้ดังนี้
1. จัดยาไว้ให้เป็นชุด
ควรจัดยาแยกไว้เป็นชุดให้กับผู้สูงอายุ สำหรับที่ต้องทานในหนึ่งวัน โดยจัดใส่ไว้ในตลับยาที่มีหลายช่อง เช่น วันหนึ่งต้องทานสามมื้อ ก็ควรจัดใส่ตลับยาที่มีสามช่อง เป็นต้น
2. เขียนหน้าตลับให้ชัดเจน
เมื่อจัดยาใส่ตลับไว้แล้ว ควรเป็นตลับที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กเกินไป สังเกตเห็นง่าย และเขียนไว้บนหน้าตลับด้วย เช่น หลังอาหารเช้า หลังอาหารกลางวัน ก่อนอาหารเย็น เป็นต้น
3. คอยถามไถ่ผู้สูงอายุเรื่องการทานยา
หลังมื้ออาหาร หรือก่อนมื้ออาหาร ควรหมั่นถามไถ่ว่าผู้สูงอายุได้ทานยาแล้วหรือยัง หรือว่าต้องทานยาก่อนอาหารหรือไม่ เป็นต้น
4. วางตลับยาให้เป็นที่
เพื่อให้หยิบมาใช้งานได้ง่าย และตรวจสอบได้ง่ายว่าผู้สูงอายุทานยาแล้วหรือไม่ ทานครบในหนึ่งวันหรือไม่ เป็นต้น
การทานยาผิดพลาด หรือทานไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง ส่งผลต่อโรคที่เป็น สุขภาพ และอาจเกิดอันตรายได้เช่นกัน ดังนั้น ควรช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทานยา และไม่ปล่อยให้ผู้สูงอายุจัดการเอง
ผู้ป่วยโรคหัวใจ มักได้รับการแนะนำว่าไม่ควรออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้อาการของโรคกำเ
แม้จะวัยสูงอายุ จะเป็นวัยที่มากด้วยประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนสามารถเผชิญกับท
ร่างกายของผู้หญิงเรา เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงอายุ 47-50 ปี ก็จะเรียกว่าช่วงวัยใกล้หมดประจำ
การออกกำลังกายในผู้สูงวัย เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้กร
ผู้สูงอายุ มักมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นในวัยหนุ่มสาว แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้
ผู้สูงอายุ เป็นช่วงวัยที่มีหลากหลายอารมณ์ เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สภาพร