การเตรียมอาหารสำหรับผู้สูงอายุนั้น ควรมีความใส่ใจทั้งการเตรียมให้ครบ 5 หมู่ในทุกมื้อ ความอ่อนนุ่มทานง่ายของอาหาร ปริมาณที่เหมาะสม ความสะอาดของอาหารและภาชนะ รวมถึงสถานที่ และยังต้องคำนึงถึงสารอาหารที่ผู้สูงอายุควรได้รับด้วยสารอาหารที่ผู้สูงอายุควรได้รับในแต่ละวัน มีดังนี้
แคลเซียม
เป็นสารอาหารสำคัญต่อผู้สูงอายุ ช่วยป้องกันกระดูกพรุน สร้างกระดูกที่แข็งแรง จึงควรได้รับแคลเซียมประมาณ 800 มิลลิกรัมต่อวัน
วิตามินบี 12
ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ ได้จาก เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ทั้งฟอง เนื้อปลา โยเกิร์ต เนยแข็ง นม เป็นต้น
วิตามินซี
หากขาดวิตามินซีจะนำไปสู่ภาวะขาดธาตุเหล็ก แผลหายช้า และเลือดออกตามไรฟัน
โพแทสเซียม
ช่วยรักษาความดันโลหิต และช่วยให้ระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย
แมกนีเซียม
ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันและกระดูกแข็งแรง รวมถึงยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ
วิตามินเอ
ช่วยบำรุงสายตา เพราะในวัยสูงอายุ สายตามักฝ้าฟาง การมองเห็นด้อยลง ซึ่งทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย จึงควรได้รับวิตามินเอทุกวัน
วิตามินดี
ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและป้องกันโรคเกี่ยวกับกระดูก จึงควรได้รับแดดอ่อนๆ ในยามเช้าและช่วงเย็นเป็นประจำ
วิตามินอี
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีจึงช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย
ใยอาหาร
ช่วยในการขับถ่าย และป้องกันโรคลำไส้ เพราะในวัยสูงอายุ ระบบขับถ่ายมักทำงานไม่ดี ส่งผลให้ท้องผูก
เมื่อได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ในแต่ละมื้ออย่างเพียงพอแล้ว อย่าลืมใส่ใจถึงสารอาหารที่ผู้สูงอายุควรได้รับในแต่ละวันด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและสมบูรณ์
ผู้สูงอายุส่วนมาก มักจะชอบหาเวลาเข้าวัดทำบุญ ฟังเทศน์ ฟังธรรม เพื่อเป็นเครื่องยึดเ
ผู้สูงอายุ เป็นวัยที่ร่างกายเสื่อมโทรมลง และมักมีโรคต่างๆ เกิดขึ้น เช่น ความดันโลหิ
การดูแลผู้สูงอายุ สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรใส่ใจ คงหนีไม่พ้นเรื่องของความปลอดภัย เน
ถ้าผู้สูงอายุในบ้านของคุณกำลังเป็นโรคซึมเศร้า หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย หรือมีนิสัยที่เปลี่ยนไป เช่
ผู้สูงอายุ มักมีปัญหาทางด้านอารมณ์ที่แปรปรวน และหงุดหงิดง่าย รวมถึงมีอาการซึมเศร้า
ธรรมชาติของคนเรา เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายย่อมทำงานได้น้อยล