ระบบทางเดินอาหาร มีผลต่อการย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย เมื่อถึงวัยสูงอายุ ระบบทางเดินอาหารจะทำงานได้ลดลง ซึ่งตัวผู้สูงอายุ และลูกหลานเอง ควรเอาใจใส่ดูแลเรื่องระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุ เพื่อให้ทราบว่า ควรจัดโภชนาการ หรือการปฏิบัติตนอย่างไร
ระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุ
ช่องปากและฟัน
- เยื่อบุช่องปากของผู้สูงอายุจะบางลง แต่ยังสามารถแบ่งตัวเป็นปกติ
- น้ำลายจากต่อมน้ำลายลดลง
- เนื้อฟันในผู้สูงอายุจะลดความทึบลง เหงือกร่นลงจากคอฟัน เนื่องจากความเสื่อม
- กระดูกขากรรไกรหดลงเรื่อย ๆ ทำให้ฟันเริ่มโยกคลอนได้ง่าย และยิ่งเมื่อมีหินปูนมาเกาะเกิดการติดเชื้อซ้ำเติม
หลอดอาหาร
พบว่าการไหลผ่านของอาหารจากลำคอสู่กระเพาะอาหารช้าลง
กระเพาะอาหาร
น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารลดความเป็นกรดลง
ตับ
- น้ำหนักของตับจะลดลงถึง 25 % จากอายุ 20 ปี ถึง 70 ปี เนื่องจากเซลล์ตับลดจำนวนลง
- ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนผ่านตับลดได้ถึง 35 % จากอายุ 20 ปี ถึง 90 ปี ทำให้การกำจัดยาที่เข้าสู่ร่างกายช้าลง
- ผู้สูงอายุมีความโน้มเอียงในการเกิดพิษจากยาและแอลกอฮอล์ได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป
ลำไส้
- ลำไส้มีการเคลื่อนตัวช้าลง ทำให้ท้องผูกได้ง่าย
- ความสามารถในการดูดซึมอาหารไม่ลดลง โดยเฉพาะการดูดซึมไขมันไม่แตกต่างไปจากคนวัยหนุ่มสาว
- การดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนลดลงเล็กน้อย
การเรียนรู้ระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุ ทำให้สามารถจัดโภชนาการที่เหมาะสมกับวัยและร่างกายของผู้สูงอายุได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการระมัดระวังในกิน และการปฏิบัติตนให้ถูกต้อง เพื่อให้คุณภาพชีวิตดี และไม่เกิดอาการท้องผูก ท้องเฟ้อ หรือจุกเสียดแน่นท้องได้
ผู้สูงอายุหลายท่าน มักตรวจพบว่าตนเองมีโรคประจำตัว และมีอาการของโรคเกิดขึ้นอยู่บ่อย
ต้อเนื้อ และ ต้อลม เป็นชนิดของโรคตา ที่ไม่รุนแรงเท่ากับต้อหินและต้อกระจก แต่
เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายคนเรามักเริ่มมีการเสื่อมโทรมของอวัยวะต่างๆ อันเป็นสาเหต
แม้โรคความดันโลหิตสูงจะพบในเด็กด้วย แต่ส่วนมากก็พบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุทั้งสิ้
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) รู้ทันป้องกันได้เพื่อชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ