
หากพูดว่าผู้สูงอายุ ที่จริงแล้ว ก็คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งในช่วงวัยสูงอายุ ก็ยังสามารถแบ่งตามช่วงอายุต่างๆ ได้อีกด้วย การดูแลตนเองสำหรับผู้สูงอายุ ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัยต่างๆ อย่างเหมาะสมด้วย จึงจะสามารถรักษาสุขภาพให้ดีอยู่ได้
ผู้สูงอายุควรมีการวางแผนการดูแลสุขภาพในแต่ละช่วงอายุ ดังนี้
45-59 ปี
ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละ 20-30 นาทีเป็นอย่างน้อย และออกให้ได้สัปดาห์ละ 3-4 วัน ทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรลด ละ เลิก การดื่มสุรา สูบบุหรี่
ในช่วงอายุนี้ เป็นวัยก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ ดังนั้น คุณควรดูแลตนเองเป็นอย่างดีที่สุด เพราะร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรมลงทีละน้อย
60-69 ปี
ในช่วงอายุนี้ คุณจะดูแก่ลงอย่างรวดเร็ว และจะเห็นความแตกต่างระหว่างผู้ที่ดูแลตนเอง และไม่ค่อยได้ดูแลตนเองอย่างเห็นได้ชัด
ในช่วงนี้ คุณควรหมั่นสังเกตอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่เกิดขึ้น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่อาจน้อยลง ทานอาหารที่มีความอ่อนนุ่มมากขึ้น ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงของมัน ของหวาน รสจัด และของทอดให้มากที่สุด และอย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจทุก 6 เดือนถ้าทำได้
70 ปีขึ้นไป
ในช่วงวัยนี้ คุณอาจเปลี่ยนการออกกำลังกายจากการเล่นกีฬา หรือการเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ มาเป็นการทำงานบ้าน จัดบ้าน ทำสวน เป็นต้น แทนการออกกำลังกายโดยตรง เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น
ควรทานอาหารที่ต้มจนเปื่อยยุ่ย ย่อยง่าย มีกากใยอาหารมาก รสอ่อนๆ แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ มากขึ้น เพื่อช่วยในการย่อย และควรหมั่นพบแพทย์ตามนัด และตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
เมื่อดูแลตนเองเป็นอย่างดีตามแต่ละช่วงวัยของวัยสูงอายุแล้ว ก็ช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงสมช่วงวัย และมีอายุที่ยืนยาวได้
ลำไส้อุดตัน คือภาวะที่สิ่งต่างๆ ในลำไส้ ทั้งน้ำ อาหาร น้ำย่อย และของเหลวต่างๆ ไม
แค่ได้ฟังว่า เกิดภาวะเลือดออกในโพรงสมอง ก็รู้สึกว่าอันตรายแล้ว ซึ่ง
สุขภาพจิตในผู้สูงอายุ มีความเสื่อมถอยสัมพันธ์กันกับสุขภาพร่างกาย เนื่องจากสภาพร่า
อายุที่มากขึ้น อะไรๆ ก็ดูจะแย่ไปเสียหมด ทั้งสภาพร่างกาย ความหย่อนยาน สุขภาพ รวมถึงผมก็ร่วงจนผมบางใกล้ล้
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มักมีอาการนอนไม่หลับ จึงทำให้เสียสุขภาพจิต อารมณ์รุนแรง ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และสุขภาพอ่อนแอ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ มีด้
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ นอกจากสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง จนอาจเกิดอาการเจ็บ