เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ นอกจากสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง จนอาจเกิดอาการเจ็บป่วย หรือมีโรคประจำตัวได้แล้วนั้น สิ่งที่ควรเอาใจใส่นอกจากร่างกาย ก็คือจิตใจของผู้สูงอายุ
โรคทางใจ แม้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย แต่ก็ส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้อาจเป็นโรคซึมเศร้า หลงๆ ลืมๆ เจ็บป่วยบ่อย มีพฤติกรรมแปลกๆ อารมณ์แปรปรวน และสิ่งที่ไม่คาดคิดต่างๆ ตามมาได้
สาเหตุที่ผู้สูงอายุมักเป็นโรคทางใจ เกิดจากสภาพร่างกายที่แย่ลง และไม่สามารถทำอะไรได้อย่างใจเหมือนเมื่อก่อน ไม่มีตำแหน่งหน้าที่ ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง และบางรายไม่สามารถดูแลตนเองได้ จึงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ จนเกิดเป็นโรคทางใจในที่สุด
การแก้ปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องที่คนในครอบครัวต้องช่วยกันดูแล ซึ่งทำได้ดังนี้
หากิจกรรมให้ทำ
เวลาที่มากเกินไป อาจทำให้ผู้สูงอายุคิดมากเกินความจำเป็น คุณจึงควรหากิจกรรมให้ทำท่าน โดยที่ไม่ได้บอกตรงๆ ว่า “หาอะไรทำไหม จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน” เพราะจะยิ่งทำให้ท่านคิดมากกว่าเดิมได้ ว่าคุณอาจจะรำคาญในสิ่งที่ท่านเป็นอยู่หรือไม่ แต่ควรเป็นการเสนอแนะ ชี้แนะ หรือหามาให้ทำ เช่น ถ้าผู้สูงอายุชอบทำอาหาร คุณอาจบอกว่าคุณอยากให้ท่านทำอาหารให้ทานจังเลย หรือพาออกไปเดินเที่ยว หากว่าท่านชอบออกไปเดินเที่ยว หรือซื้อของ พาไปพบปะกับเพื่อนฝูง เป็นต้น
การหากิจกรรมให้ทำ นอกจากจะทำให้ท่านได้ใช้เวลาว่างทำในสิ่งที่ชอบ อาจเป็นการสร้างรายได้ หรือเป็นการแสดงความเอาใจใส่ท่านมากขึ้นอีกด้วย
มีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน
สังคมในปัจจุบัน ทำให้หนุ่มสาวสมัยนี้ต้องออกไปทำงานกันทั้งบ้าน และลูกหลานเองก็ต้องไปเรียนหนังสือ โดยปกติในตอนกลางวัน ผู้สูงอายุจึงมักจะอยู่คนเดียว และปล่อยความคิดไปกับความว่างเปล่าที่เป็นเพื่อนได้
สิ่งที่ช่วยได้ คือสัตว์เลี้ยง ยิ่งถ้าหากว่าญาติผู้ใหญ่ในบ้านของคุณชอบสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้ท่านไม่เหงา และใช้เวลาไปกับการดูแลสัตว์เลี้ยงบ้าง มากกว่าที่ทั้งวันจะนึกถึงแต่เรื่องของตนเองเท่านั้น แต่การเลี้ยงสัตว์ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย เช่น เรื่องของสัตว์เลี้ยง ควรเป็นสัตว์ที่ไม่มีแรงมาก เพราะอาจทำให้ท่านหกล้มได้ หรือคำนึงถึงเรื่องความสะอาดเป็นหลัก เพราะผู้สูงอายุภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเจ็บป่วยได้
การบำบัดโรคทางใจให้กับผู้สูงอายุทั้ง 2 วิธีนี้ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุไม่มีเวลาในการคิดมาก หรือคิดถึงตัวเองมากจนเกินไปได้ แต่การแก้ไขที่ดีที่สุด คือการแก้ที่ต้นเหตุ นั่นคือ ความรักความเอาใจใส่จากคนในครอบครัว จะเป็นยาที่รักษาโรคทางใจได้ดีที่สุดนั่นเอง
ผู้สูงอายุที่มีพุงพลุ้ยๆ ดูนุ่มนิ่มน่ากอดที่สุด อาจคิดว่าเป็นสิ่งที่ล
ในผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ผิวเริ่มจะแห้งมากขึ้น และเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ผิวมักจะแห้งกร้านมาก และมี
เมื่ออายุเข้าสู่เลข 5 เลข 6 ผู้สูงอายุมักจะเริ่มปล่อยปะละเลยตนเองในเรื่องอาหารการกิน เพราะไม่ห่วงเรื่อง
อาการสมองเสื่อม ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ดูแลหลายท่านอาจเข้าใจว่าเป็นเพียงอาการที่เกิด
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นทุกวัน กระดูก ย่อมผุกร่อน และบางลงไปตามกาลเวลา ในวัยสูงอายุ จึงไม
อาการของโรคภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ จะเหมือนกับอาการของผู
