หน้ามืด วิงเวียน เป็นลม อาการของผู้สูงอายุ



อาการหน้ามืด วิงเวียน เกิดขึ้นได้เมื่อผู้สูงอายุปรับเปลี่ยนอิริยาบถในทันที ซึ่งมีทั้งเป็นชั่วคราว และถึงขั้นเป็นลมหมดสติไปได้ อาการเหล่านี้ มักเป็นในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งต้องแก้ไข

สาเหตุของการเกิด
อาการหน้ามืด วิงเวียน เกิดจากการที่เลือดนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ที่เป็นมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากว่า ผู้สูงอายุมีร่างกายที่เสื่อมถอยไปตามสภาพ ทำให้กลไกการควบคุมแรงดันเลือดเสื่อมสภาพลงไปด้วย ไม่สามารถควบคุมแรงดันได้ปกติ และเมื่อสมองได้รับเลือดเพียงพอ อาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ หายเป็นปกติ

กลไกดังกล่าวในผู้สูงอายุ ที่เสื่อมไปอาจเกิดจากโรคบางอย่าง เช่น โลหิตจาง โรคระบบทางเดินโลหิตและหัวใจ เป็นต้น การที่จะรู้ได้ จึงจำเป็นต้องไปพบแพทย์เท่านั้น

การเสริมสุขภาพ
หากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอาการดังกล่าว ควรเสริมสุขภาพโดยการทานอาหารที่ได้สัดส่วนถูกต้อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกหนีความเครียด ความวุ่นวายต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยการปรับตัว

การป้องกันอันตรายจากอาการ
- ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอย่างระมัดระวัง และค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป
- ตรวจสอบความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายอยู่เสมอๆ
- หากมีอาการหน้ามืด ควรตั้งสติ นั่งหรือนอนราบลงกับพื้นเพื่อรอให้อาการดีขึ้น
- ในห้องน้ำ ควรมีราวจับเพื่อช่วยพยุงตัว
- ถ้ามีอาการหน้ามืด เป็นลมบ่อย ไม่ควรออกกำลังกายหนัก
- เมื่อหน้ามืด เมื่ออาการดีขึ้นควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจว่ามีโรคใดหรือไม่

การปฐมพยาบาล
- เมื่อผู้สูงอายุมีอาการหน้ามืด วิงเวียน หรือเป็นลม ควรรีบพยุงผู้สูงอายุไว้ไม่ให้ล้ม และค่อยๆ ให้นอนราบลงกับพื้น คลายเสื้อผ้าให้หลวม นอนหัวต่ำ และยกปลายเท้าสูงเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมอง
- ใช้แอมโมเนียหอมชุบสำลีส่ายไปมาที่จมูก และใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดบริเวณแขน ขา รวมถึงพัดให้อากาศถ่ายเท เมื่อผู้สูงอายุอาการดีขึ้น จึงค่อยเคลื่อนไหวต่อไป

แม้อาการหน้ามืด วิงเวียน เป็นลม จะไม่ได้เป็นอันตราย แต่หากเกิดล้ม ก็อาจได้รับความกระทบกระเทือนสมอง กระดูกหัก หรือตกจากที่สูงซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรระมัดระวังอาการดังกล่าวเป็นอย่างดี


บทความที่เกี่ยวข้อง

การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคไขมันในเลือดสูง

โรคไขมันในเลือดสูง คือ โรคที่มีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าค่าที่ถูกกำ

แผนดูแลสุขภาพในแต่ละช่วงวัยของผู้สูงอายุ

หากพูดว่าผู้สูงอายุ ที่จริงแล้ว ก็คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งในช่วงวัยสูงอ

หลักในการกินดีของผู้สูงอายุ อะไรควร และอะไรไม่ควร

“คนเรากินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” คำพูดนี้ เป็นคำพูดที่เตือนใจเราได้เป็นอย

ระวังภัย !!! การหกล้มในผู้สูงอายุ อันตรายใกล้ตัว

การหกล้ม เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แม้จะไม่อันตรายถึงชี

โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ

โรคจอตาเสื่อม เป็นโรคที่จะเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น แล

อาการเพ้อ และโรคสมองเสื่อม

บุตรหลานที่มีผู้สูงอายุในบ้าน มักเคยพบเห็นอาการแปลกๆ ของผู้สูงอายุ ท