รู้จัก และรับมือกับ “วัยทอง”อย่างภาคภูมิใจ



วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน เป็นวัยที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคนในช่วงอายุ 47-50 ปี เริ่มจากรังไข่เริ่มทำงานไม่ปกติ ซึ่งทำให้มีประจำเดือนถี่ขึ้นจากช่วงห่าง 28 วัน เป็นประมาณ 21 วันและระยะเวลาระหว่างรอบระดูจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนกระทั่งไม่มีประจำเดือนอย่างถาวร โดยทั่วไปช่วงนี้ใช้เวลา 2-8 ปี

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงในวัยทองนี้ แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน บางคนไม่มีปัญหาใดๆ แต่บางคนก็มีอาการรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อร่างกายและจิตใจโดยสาเหตุนั้นเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม การดำเนินชีวิต และสภาพแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
เกิดขึ้นในช่วงต้นของการใกล้หมดประจำเดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการ ดังนี้
- เกิดอาการร้อนวูบวาบตามตัว ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น กำลังกล้ามเนื้อลดลง ปวดตามข้อ
- ช่องคลอดอักเสบ คันช่องคลอด ช่องคลอดแห้ง ทำให้เจ็บเวลามีการร่วมเพศ ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและอารมณ์ ได้แก่ หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เครียด กังวล เหนื่อย เพลีย หมดความต้องการทางเพศ เป็นต้น

การเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
เกิดขึ้นในช่วงหลังของวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมีอาการดังนี้
- มีการสูญเสียกระดูกมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้เร็ว
- เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ไขมันในเลือดสูง

การรักษา
การรักษาทำได้โดยการให้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีอาการ โดยใช้ฮอร์โมนทดแทน คือ เอสโตรเจน เอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรน และฮอร์โมนอื่นๆซึ่งอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด เจ็บคัดเต้านม ปวดศีรษะ เป็นต้น

การปฏิบัติตนในวัยทอง
- ควบคุมอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง และควรทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ตรวจเต้านมด้วยตนเอง และตรวจร่างกายประจำปี
- ปรึกษาแพทย์ในการใช้ฮอร์โมนทดแทนในรายที่จำเป็น

เมื่อรู้จักอาการของวัยทอง และการปฏิบัติตนแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดีอยู่เสมอก็ช่วยได้มาก เพื่อให้คุณยิ้มรับวัยทองได้อย่างภาคภูมิใจ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัญหาขำขันในการสื่อสาร ที่ทำให้ผู้สูงอายุและคนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจกัน

ผู้ที่มีผู้สูงอายุในบ้านของท่าน หรือได้รู้จักคุ้นเคยกับผู้สูงอายุบางท่าน คงเคยม

ชวนผู้สูงอายุ เล่นหมากรุกไทย คลายเครียด

ถ้าผู้สูงอายุในบ้านของคุณกำลังเป็นโรคซึมเศร้า หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย หรือมีนิสัยที่เปลี่ยนไป เช่

วางแผนรับมือกับความชราอย่างฉลาด

เมื่อถึงช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไป เราจะก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุในขั้นแรก ตั้งแต่ช่วงวัยนี้ เ

“หกล้ม” เสี่ยงอันตรายกับ “ภาวะเลือดออกในสมอง”

ในวัยสูงอายุ การเคลื่อนไหวร่างกายทำได้ช้าลง และยากลำบากขึ้น การมองเห็นก็ไม่ชัด

สูงวัยอย่างแข็งแรง มาออกกำลังกายกันเถอะ

สิ่งที่ผู้สูงอายุแทบทุกท่านมักมองข้ามไป และไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญ และเสริมสร้า

การทำงานของระบบการหายใจ ในช่วงวัยของผู้สูงอายุ

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงวัยสูงอายุ เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ และหมั่นจดบันทึ