
โรคจอตาเสื่อม เป็นโรคที่จะเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงที่จอตา คือเซลล์รับรู้การเห็นมีจำนวนลดลง จอตามีเม็ดสีลดลง เม็ดสีที่ผิดปกติเพิ่มขึ้น มีไขมันปนอยู่ และมีเนื้อเยื่อของลูกตาเกิดการเสื่อมร่วมไปด้วย ทำให้เลือดมาเลี้ยงจอตาลดลง
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- พันธุกรรม
- เพศ พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
- เชื้อชาติ พบว่าพวกผิวขาวเป็นมากกว่าผู้ที่มีผิวสี
- มีสายตายาว เสี่ยงมากกว่าผู้ที่มีสายตาสั้น
- ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด มีไขมันในเลือดสูง และตาได้รับแสงแดดเรื้อรัง
- การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา ซึ่งสารพิษในบุหรี่จะทำลายเซลล์จอตาโดยตรง
- ขาดสารอาหาร ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
ความรุนแรงของโรค
โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ ไม่ทำให้เกิดตาบอด แต่จะเห็นภาพไม่ชัด และมองภาพผิดเพี้ยนไป และมีผลต่อการใช้ชีวิต
การดูแลตนเอง
- เมื่อมีอาการ หรือมีปัญหาในการมองจนสังเกตได้ ควรรีบพบแพทย์
- ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ครบถ้วน ถูกต้อง รวมถึงการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ
- รักษาสุขภาพจิต ใช้สายตาอย่างพอเหมาะ และพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด
- หากอาการแย่ลง หรือผิดปกติมาก ควรรีบพบแพทย์ทันที
การป้องกันตนเอง
- ป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
- ใช้แว่นกันแดดที่มีประสิทธิภาพอยู่เสมอเมื่อต้องอยู่กลางแสงแดด
- ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ งดดื่มสุรา
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม
- ตรวจสุขภาพประจำปี ตั้งแต่อายุ 18-20 ปี
โรคจอตาเสื่อม ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะดวงตาเป็นสิ่งสำคัญในการมองเห็น และการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ ดังนั้น เราควรป้องกันโรคจอตาเสื่อมเสียแต่เนิ่นๆ หากทำได้ และหากตาของคุณมีปัญหาในการมองเห็นไปแล้ว ควรหมั่นพบแพทย์ตามนัด และดูแลตนเองอย่างดี
จากข่าว ดาราตลกชื่อดัง เป็ด เชิญยิ้ม ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อโนโรไวรัส เชื้อไวรัสที่เป็นส
แม้ว่าอาการอาหารเป็นพิษ จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ในวัยสูงอายุ ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำกว
การขับถ่าย เป็นสุขอนามัยพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน และมีความจำเป็นในการดำรงชีวิต มนุษย์เร
ปัญหาการได้ยินในผู้สูงอายุ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 3 ของโรคเรื้อรังต่าง
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงสูงวัย นอกจากสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ อ่อนแอลงไปมากแล้ว ยังมีเรื