โครงการ เงินดิจิทัลเฟส2 หรือ เงิน 10,000 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้ปิดลงทะเบียนบนแอป "ทางรัฐ" เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ จะอยู่ที่หน้าจอ ขั้นตอนที่ 3 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เช่น กรอกข้อมูลส่วนบุคลไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์ สแกนหน้าไม่ผ่าน เป็นต้น ให้กดปุ่ม แก้ไขข้อมูล แล้วทำให้ถูกต้อง จนมาอยู่ที่หน้าจอ ขั้นตอนที่ 3 ก่อนหมดเขต 15 กันยายน 2567 จึงจะสามารถตรวจสอบสิทธิผู้ลงทะเบียน ในวันที่ 22 มกราคม 2568 ผลที่ออกมาจะมีทั้งผ่านเกณฑ์ได้รับเงิน และ ไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับเงิน โดยมีข้อความอธิบายคุณสมบัติที่ไม่ผ่านให้ทราบ
ต่อมาวันที่ 27 มกราคม 2568 ได้มีการจ่ายเงิน Digital Wallet 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุ มีบางส่วนที่เงินไม่เข้า เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการผูกบัญชีกับพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน ให้รีบติดต่อธนาคารเพื่อแก้ไข โดยจะมีการโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 , 28 มีนาคม 2568 และ 28 เมษายน 2568 ครบกำหนดจะถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงิน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์โดยกล่าวถึงผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านแอป ทางรัฐ ไม่สำเร็จ หรือ ไม่ได้กดยืนยันรับสิทธิ์ ถือว่าเป็นผู้ที่ลงทะเบียนไม่ครบตามขั้นตอนจึงไม่ได้รับสิทธิ์ รวมถึงไม่สามารถไปลงทะเบียนกับ กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน เพราะไม่ได้ทำตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนด จึงถือว่าไม่ได้รับสิทธิ์
ประเด็นนี้สร้างกระแสในสังคมเป็นอย่างมาก ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไม่ผ่าน ต้องการให้มีการทบทวนแนวคิดนี้ใหม่ เพราะผุ้สูงอายุหลายท่าน มีข้อจำกัดในการใช้งานสมาร์ทโฟน บางท่านไม่มีคนช่วยดูแล หรือทำให้ ควรพิจารณาให้ได้รับสิทธิ์ในการลงทะเบียนเช่นเดียวกับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน
อาการปวดที่เป็นสัญญาณเตือนผู้สูงอายุให้เริ่มดูแลตนเอง หรือรีบไปพบแพทย์ มีรายละเอียด ดังนี้
วิเคราะห์โครงการ เงิน 10,000 ดิจิทัล วอลเล็ต ครอบคลุมทั้ง เฟส 1 , 2 และ 3 โดย ThaiSenior จะน
นอกจากโครงการ เงินดิจิทัลเฟส2 หรือเงิน 10,000 ผู้สูงอายุ ที่มีการจ่ายไปแล้วเม
โรคความดันโดลหิตสูง อาจจะเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงในความคิดหลายคน เนื่องด้วยเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการบ่งชัด ห
ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา ให้สัมภาษณ์ เมื่อวั
